
ข่าวที่ 136/2568 วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568
นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.)กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน(เกษตรทฤษฎีใหม่)ซึ่งเป็นโครงการภายใต้แผนแม่บทย่อยเกษตรปลอดภัย
มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการพัฒนาเกษตรทฤษฎีใหม่ และเตรียมความพร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรเข้าสู่ระบบการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยได้มาตรฐาน โครงการนี้มีหน่วยงานที่ร่วมขับเคลื่อน คือ กรมการข้าว กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์
กรมหม่อนไหม และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)โดย สศก.ทำหน้าที่ติดตามประเมินผล มีพื้นที่ ดำเนินการ 76 จังหวัดครอบคลุม 4 ภาค ในการนี้ สศก. ได้ติดตามผลการดำเนินงาน พบว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โครงการ ฯ สามารถดำเนินการ ได้ ร้อยละ 101.23 ของเป้าหมายภาพรวม
โดยมีผลการดำเนินงานในหลายมิติ อาทิ การสนับสนุนปัจจัยการผลิต พื้นฐานด้านข้าว และจัดเวทีชุมชนถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตด้านข้าว 4,549 ราย การส่งเสริมองค์ความรู้พัฒนาเกษตรทฤษฎีใหม่ด้านประมง และสนับสนุนปัจจัยการผลิต 5,000 ราย(ครบตามเป้าหมาย) การพัฒนาศักยภาพด้านปศุสัตว์ 20,039 ราย การส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์กลุ่มและหน่วยธุรกิจแบบมีส่วนร่วม 1,258 กลุ่ม การพัฒนาอาชีพและการตลาดสนับสนุนหม่อนพันธุ์ดี/หม่อนชำถุง 22,154 ต้น และขยายผลเกษตรกรรายใหม่ทฤษฎีใหม่หม่อนไหม 100 ราย การซักซ้อมพัฒนาครูบัญชี 131 ราย และอบรมการจัดทำบัญชีต้นทุน อาชีพ 3,608 ราย ตลอดจนการส่งเสริมพื้นที่ในเขตปฏิรูปที่ดินให้เป็นพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน 36,058.72 ไร่ นอกจากนี้ สศก. ยังได้ติดตามผลลัพธ์
ที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในพื้นที่ 23 จังหวัด พบว่าเมื่อพิจารณาภาพรวมจากการส่งเสริมของ
โครงการฯ เกิดผลสัมฤทธิ์ 2 ด้าน ได้แก่ 1.ด้านเศรษฐกิจครัวเรือน ช่วยลดรายจ่ายในครัวเรือนของเกษตรกร เฉลี่ย 2,860 บาท/ครัวเรือน/ปี จากการนำพันธุ์พืชระยะสั้น เมล็ดพันธุ์ผักที่ได้รับสนับสนุนมาปลูกทำให้ลด
การซื้อผักจากตลาด/ร้านค้า, เฉลี่ย 2,809 บาท/ครัวเรือน/ปี จากการนำไข่ไก่มาบริโภค และเฉลี่ย 2,364 บาท/ครัวเรือน/ปี จากการนำปลามาบริโภค และลดการซื้อหัวอาหาร นอกจากนี้ ยังช่วยลด ค่าใช้จ่ายทางการเกษตร ในเรื่องการลดค่าปุ๋ยเคมี/สารเคมี เฉลี่ย 2,678 บาท/ครัวเรือน/ปี และ 2.ด้านการจัดการ ทรัพยากร พบว่า เกษตรกรร้อยละ 10.60 ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากเกษตรทั่วไป (การใช้สารเคมีและปุ๋ยเคมี) มาทำเกษตรปลอดภัย (ลดการใช้สารเคมี หรือไม่ใช้เลย) ขณะที่เกษตรกรที่ทำเกษตรทั่วไปร้อยละ 63.64 มีความสนใจ
ที่จะปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรปลอดภัย โดยให้เหตุผลเรื่องห่วงสุขภาพของตนเองจากการสัมผัสสารเคมีโดยตรงและสารตกค้างในผลผลิต ส่วนเกษตรกรอีกร้อยละ 36.36 ไม่สนใจทำเกษตรปลอดภัย และไม่สนใจขอรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรปลอดภัยเนื่องจากเห็นว่าขั้นตอนการขอยุ่งยากหลายขั้นตอน ทั้งนี้ สศก.มีข้อเสนอแนะว่า ควรยกระดับการบูรณาการกลไกทำงานระดับจังหวัดเพิ่มการให้คำแนะนำเรื่องเกษตรปลอดภัย การพัฒนาระบบติดตามผลแบบดิจิทัล (Real-time) เพื่อการวิเคราะห์เชิงนโยบายที่รวดเร็วและแม่นยำ การสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง(เช่น ระบบรับรองเกณฑ์รางวัล หรือตลาดพิเศษ) และพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้ยืดหยุ่นมากขึ้นตามสภาพพื้นที่
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์ / ข้อมูล : ศูนย์ประเมินผล
สศก. ชูผลประเมิน “เกษตรทฤษฎีใหม่” ช่วยเกษตรกรลดรายจ่ายครัวเรือน-ลดใช้สารเคมี
