
ข่าวที่ 119/2568 วันที่ 22 ตุลาคม 2568
นางธัญธิตา บุญญมณีกุล รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการติดตามโครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพเพื่อเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานเศรษฐกิจชีวภาพ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้สามารถผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่พืชสมุนไพรและแมลง เศรษฐกิจได้อย่างมีคุณภาพและสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยมีหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน 5 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมวิชาการเกษตร สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยมี สศก. ทำหน้าที่ติดตามและประเมินผล
สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โครงการได้ตั้งเป้าหมายอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพเกษตรกรจำนวน 5,400 ราย ในพื้นที่ 71 จังหวัด โดยแต่ละหน่วยงานได้ดำเนินกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ กรมส่งเสริมการเกษตร ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ผลิตสมุนไพรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแมลงเศรษฐกิจ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ฝึกอบรมด้านการผลิต การเพิ่มมูลค่า การตลาด และสนับสนุนเทคโนโลยีนวัตกรรมแก่เกษตรกรใน เขตปฏิรูปที่ดิน กรมวิชาการเกษตร จัดทำแปลงต้นแบบเทคโนโลยีการผลิตและผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากพืชสมุนไพร ท้องถิ่น สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยกระดับการผลิตพืชสมุนไพรในเมืองสมุนไพร ส่งเสริมการผลิต วัตถุดิบคุณภาพและให้ความรู้ด้านการจัดทำแผนธุรกิจ (Business Model) และ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ส่งเสริมการ ปลูกพืชสมุนไพรในสถาบันเกษตรกร ให้ความรู้ด้านการผลิตตามมาตรฐาน GAP/อินทรีย์ การลดต้นทุน การแปรรูป การตลาด และการเชื่อมโยงเครือข่าย ซึ่งจากการดำเนินงานระหว่างเดือนตุลาคม 2567 – กันยายน 2568 สามารถ อบรมเกษตรกรได้ทั้งสิ้น 5,439 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 100.72 ของเป้าหมายที่วางไว้
จากการลงพื้นที่ติดตามและประเมินผลโดยศูนย์ประเมินผล สศก.ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี ลำปาง สุโขทัย และพิษณุโลก ช่วงเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2568 พบว่า เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการได้นำความรู้ ไปปรับใช้จริง ทั้งในด้านการปลูกดูแลรักษาพืชสมุนไพร การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า การเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ เช่น ผึ้งและจิ้งหรีด การป้องกันโรคในแมลง ตลอดจนการรับรองมาตรฐานและการตลาด ส่งผลให้เกษตรกรร้อยละ 75.27 มีรายได้เพิ่มขึ้นหลังเข้าร่วมโครงการ โดยมีพื้นที่การผลิตสมุนไพรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 0.44 ไร่ต่อราย และที่สำคัญ สามารถสร้างมูลค่าของสินค้าเกษตรชีวภาพเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6,330.19 บาทต่อปี จากเดิมที่มีมูลค่า 22,106.56 บาทต่อปี เพิ่มเป็น 28,436.75 บาทต่อปี หรือคิดเป็นการเติบโตร้อยละ 28.63 อย่างไรก็ตาม ยังพบว่าเกษตรกรมีความต้องการพันธุ์สมุนไพรชนิดใหม่ๆ เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูก แต่ยังขาด แคลนแหล่งพันธุ์ที่ได้มาตรฐาน ขณะที่เกษตรกรบางรายยังประสบปัญหาช่องทางการจำหน่ายผลผลิตที่ไม่แน่นอน ทำให้เกิดภาวะสินค้าล้นตลาด สศก. จึงมีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่งเสริมและสนับสนุนการจัดหาพันธุ์ สมุนไพรคุณภาพดีและเป็นที่ต้องการของตลาด ควบคู่ ไปกับการส่งเสริมการรวมกลุ่มสร้างเครือข่ายและเชื่อมโยง ตลาดให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรองทางการค้าและสร้างเสถียรภาพด้านราคา
"ในปีงบประมาณ 2569 สศก. โดยศูนย์ประเมินผล ยังมีแผนการติดตามโครงการนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมิน ความก้าวหน้า รับฟังปัญหาอุปสรรค และรวบรวมข้อเสนอแนะจากผู้ที่เกี่ยวข้องหมด เพื่อนำข้อมูลไปปรับปรุงและ สนับสนุนการกำหนดนโยบายให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรต่อไป"
รองเลขาธิการ สศก. กล่าวทิ้งท้าย
ข่าว : ส่วนประชาสัมพันธ์ / ข้อมูล : ศูนย์ประเมินผล
ความสำเร็จโครงการพัฒนาสินค้าเกษตรชีวภาพ ดันรายได้เกษตรกร-สร้างมูลค่าเพิ่มต่อเนื่อง
